การประท้วงปี 2016: การปะทะที่ไม่คาดคิดระหว่างรัฐบาลกับกลุ่ม 청년

 การประท้วงปี 2016: การปะทะที่ไม่คาดคิดระหว่างรัฐบาลกับกลุ่ม 청년

ในดินแดนโบราณอย่างเอธิโอเปีย ซึ่งมีชื่อเสียงจากอารยธรรมอันยิ่งใหญ่และหลุมฝังศพของโบราณคดีที่น่าทึ่ง มีเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่รุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปตามวิถีของประวัติศาสตร์มนุษย์เสมอ นั่นคือการประท้วงในปี 2016

การประท้วงครั้งนี้ถูกจุดชนวนจากความไม่滿ใจของกลุ่ม 청년เอธิโอเปียที่มีต่อ정부ของนายกรัฐมนตรีเฮอเลอมารียม เดสอาลิน มีหลายปัจจัยที่นำไปสู่การประท้วง:

  • ขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ: ร้อยละสูงของเยาวชนเอธิโอเปียตกงานและไม่มีความมั่นคงในด้านรายได้ พวกเขาถูกจำกัดด้วยระบบการศึกษาที่ไม่เท่าเทียมและขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล
  • การกดขี่ทางการเมือง: เสรีภาพในการแสดงออกถูกค่อนข้างจำกัด และพรรครuling party ควบคุมเกือบทุกแง่มุมของชีวิตการเมือง

ในบรรดาผู้นำที่กล้าท้าทายระบบการปกครองแบบอนุรักษนิยมเหล่านี้ มี “Zetenech Alemu” นักกิจกรรมผู้หญิงอายุน้อย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความกระหายโอกาสและความยุติธรรม

Zetenech เป็นหนึ่งในผู้นำการประท้วงโดยใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อรวบรวมและระดมพลเยาวชนเอธิโอเปียให้ร่วมกันต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเอง

การประท้วงเริ่มต้นขึ้นในพื้นที่ชนบทก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังเมืองหลวงอย่างอาดดิส อาบาบา การชุมนุมครั้งใหญ่ทำให้เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผลลัพธ์ของการประท้วงปี 2016:

ผลกระทบ คำอธิบาย
ภาวะความไม่สงบ: การประท้วงนำไปสู่ความรุนแรงและความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมถึงการสูญเสียชีวิตของผู้คนจำนวนหนึ่ง
การปฏิรูปทางการเมือง: รัฐบาลเอธิโอเปียภายใต้แรงกดดันจากการประท้วงได้ประกาศใช้มาตรการปฏิรูปบางอย่าง เช่น การยกเลิกสถานะฉุกเฉินและการปล่อยตัวนักโทษการเมือง
การถอนตัวของนายกรัฐมนตรี: ในปี 2018 เฮอเลอมารียม เดสอาลิน ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ประสบกับความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง

Zetenech Alemu และกลุ่มเยาวชนผู้กล้าหาญได้ปลุกระดมความตระหนักในสังคมเอธิโอเปีย เกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและการสร้างรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

การประท้วงปี 2016 เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทั้งผู้ปกครองและผู้ถูกปกครองว่า การไม่ใส่ใจความต้องการของประชาชน และการกดขี่ทางการเมืองจะนำไปสู่ความไม่สงบและความรุนแรงในที่สุด.

Zetenech Alemu เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่คนธรรมดาๆก็สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ หากพวกเขา團結起来และยืนหยัดเพื่อสิ่งที่พวกเขายึดมั่น