การประท้วง Aba Women's Riots คลื่นแห่งความไม่พอใจของผู้หญิงไนจีเรียต่อการขึ้นภาษีและการปกครองที่ไม่ยุติธรรม

ในประวัติศาสตร์ไนเจอเรีย ยุคอาณานิคมเต็มไปด้วยเรื่องราวของการต่อสู้ การกดขี่ และการลุกฮือขึ้นเพื่อเรียกร้องสิทธิความเป็นมนุษย์ เหตุการณ์หนึ่งที่น่าจดจำและแสดงให้เห็นถึงพลังของผู้หญิงในการต่อสู้กับระบบที่ไม่เป็นธรรม คือ การประท้วง Aba Women’s Riots

Aba Women’s Riots เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1929 ในเมืองอาบา รัฐไนเจอเรียตะวันออกเฉียงใต้ เหตุการณ์นี้เป็นการลุกฮือของผู้หญิงชาวไอก์โบ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ พวกเธอได้ยื่นคำขาดต่อการเก็บภาษีใหม่ที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งถูกบังคับโดยผู้ว่าการอังกฤษ

การประท้วง Aba Women’s Riots เริ่มต้นจากความไม่พอใจของผู้หญิงไอก์โบที่มีต่อระบบภาษีใหม่ที่กำหนดขึ้นโดยรัฐบาลอาณานิคมอังกฤษ ภาษีดังกล่าวถูกมองว่าเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับผู้หญิงและทำให้พวกเธอยากลำบากในการดำรงชีพ

นอกจากนี้ ผู้ผู้หญิงไอก์โบยังไม่พอใจกับการปกครองของรัฐบาลอาณานิคมอังกฤษ ซึ่งพวกเธอเห็นว่าเป็นการกดขี่และไม่ให้ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรมของตน

เมื่อไม่สามารถทนทานต่อสภาวะที่ลำบากได้อีกต่อไป ผู้หญิงไอก์โบจึงรวมตัวกันเพื่อประท้วง การประท้วงเริ่มขึ้นในตลาดอาบา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและกิจกรรมทางสังคมในพื้นที่

• ความรุนแรง:

ผู้ประท้วงจำนวนมาก รวมถึงผู้หญิงวัยต่างๆ และเด็กๆ ได้เข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงไปยังสำนักงานของเจ้าหน้าที่อังกฤษ ในระหว่างการประท้วง เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจซึ่งนำไปสู่การใช้ความรุนแรง

• การเสียชีวิต:

เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

ผลที่ตามมาของ Aba Women’s Riots:

Aba Women’s Riots มีผลกระทบอย่างมากต่อสังคมไนเจอเรียในยุคนั้น

ผลกระทบ	การอธิบาย
การยกเลิกภาษี:	รัฐบาลอาณานิคมอังกฤษถูกบังคับให้ยกเลิกการเก็บภาษีใหม่ที่เป็นสาเหตุของการประท้วง
การรับรู้ต่อบทบาทของผู้หญิง:	การลุกฮือของผู้หญิงชาวไอก์โบได้แสดงให้เห็นถึงพลังและความกล้าหาญของผู้หญิง และทำให้สังคมเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทของผู้หญิงในสังคม

Aba Women’s Riots เป็นตัวอย่างที่สำคัญของการต่อสู้เพื่อสิทธิความเป็นมนุษย์ในยุคอาณานิคม นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามัคคีของผู้หญิง ซึ่งสามารถรวมตัวกันเพื่อต่อต้านความไม่ยุติธรรม

นอกเหนือจาก Aba Women’s Riotsแล้ว ไนเจอเรียยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และผู้ที่เล่นบทบาทสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ ได้แก่ Victoria Aguyi-Ironsi ซึ่งเป็น First Lady ของไนเจอเรียในช่วงปี 1966 - 1967

Victoria Aguyi-Ironsi เป็นผู้หญิงที่มีความกล้าหาญและมุ่งมั่น เธอได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาสังคมไนเจอเรีย และสนับสนุนสิทธิของผู้หญิง เธอเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้หญิงชาวไนเจอเรียในทุกยุคสมัย